Q : การฟอกสีฟัน คืออะไร?
A : การฟอกสีฟัน คือ การทำให้ฟันที่มีสีคล้ำ ดูขาวขึ้น
ฟันที่เปลี่ยนสี เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ สาเหตุจากภายนอกตัวฟัน (Extrinsic) เช่น สีจากอาหาร เครื่องดื่ม บุหรี่ เป็นต้น และ สาเหตุจากภายในตัวฟัน (Intrinsic) เช่น การสะสมสารมีสีข้างในเนื้อฟันขณะสร้างฟัน หรือในกรณีฟันตาย เป็นต้น ดังนั้น การฟอกสีฟันจึงมีด้วยกันหลายวิธี ขึ้นอยู่กับต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีนั้นๆ
Q : การฟอกสีฟัน ทำได้อย่างไร?
A : การฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะวิธี ฟอกจากภายในตัวฟันเอง (Internal Tooth Bleaching) หรือฟอกจากด้านนอกตัวฟัน (External Tooth Bleaching) จะต้องใช้สารเคมีประเภทไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) ช่วยด้วยเสมอ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยสารดังกล่าวนี้ จะเป็นตัวช่วยให้สารที่มีสีในตัวฟันเกิดการแตกตัว มีขนาดเล็กลง แล้วแทรกซึมผ่านเนื้อฟันออกมา ทำให้ฟันมีสีขาวขึ้นได้
Q : การฟอกสีฟัน มีกี่วิธี? อะไรบ้าง? และแต่ละวิธี ต่างกันอย่างไร?
A : การฟอกสีในฟันที่เปลี่ยนสี แบ่งออกเป็นการทำในฟันที่มีชีวิต ( Vital) และในฟันที่ไม่มีชีวิต ( Non Vital) โดยแบ่งออกเป็น 5 วิธี ดังต่อไปนี้
1. In-office Power Bleaching
เป็นการฟอกสีฟันที่ทำในคลินิก โดยทันตแพทย์ ใช้สารไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ ที่มีความเข้มข้นสูง (ประมาณ 35%
2. At-home Bleaching
เป็นการฟอกสีฟันที่ทำด้วยตัวเองที่บ้าน ด้วยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำ
(Zoom) Day White Nite White (7.5%, 9.5% )
ยี่ห้อ Opalescence(ประมาณ 10%,15%,20%)
เป็นการฟอกสีฟันที่ทำด้วยตัวเองที่บ้าน ด้วยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำ
ยี่ห้อ Opalescence(ประมาณ 10%,15%,20%) และ (Zoom) Day White Nite White (7.5%, 9.5% )
3. In-office assisted Bleaching
เป็นการฟอกสีฟันที่ทำร่วมกันระหว่าง in-office power bleaching กับ at-home bleaching โดยทำในกรณีที่สีเริ่มต้นของฟันเข้มมาก จะทำ in-office power bleaching ด้วยสารไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ ความเข้มข้นสูง เพื่อให้ฟันสีขาวขึ้นระดับหนึ่งก่อน จากนั้นจะให้กลับไปทำต่อเองที่บ้าน ด้วยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำ ต่อเนื่องกันไปสักระยะหนึ่ง สีของฟันจะขาวขึ้นได้อีก และความขาวจะอยู่ได้นานขึ้น
4. Over-the-counter Bleaching
ใช้สารฟอกสีฟันไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ ความเข้มข้นต่ำ รูปแบบต่างๆ ที่มีวางขายทั่วไปตามท้องตลาด หาซื้อได้ตามร้านค้าผลิตภัณฑ์ยาและความงามต่างๆ เช่น แถบฟอกสีฟัน หรือ ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารฟอกสีฟัน เป็นต้น หาซื้อมาใช้ได้เอง ไม่จำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ เหล่านี้ เชื่อว่าสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ แต่ผลการฟอกสีฟัน ยังไม่เป็นที่สรุปได้ชัดเจนนัก
5. Walking Bleaching
เป็นการฟอกสีฟัน ในฟันที่เปลี่ยนสีเนื่องจากฟันตาย ซึ่งมักมีการเปลี่ยนสีของฟันเฉพาะซี่ ไม่ได้เปลี่ยนสีทั้งปาก ฟันที่ได้รับการรักษารากฟัน หรือฟันปกติที่ได้รับการกระทบกระเทือน จะมีสีคล้ำขึ้น เนื่องจากมีการคั่งของเลือดภายในท่อเนื้อฟัน การฟอกสีฟันในฟันตายสามารถทำได้โดยทำการฟอกเฉพาะซี่นั้นๆ ได้โดยตรง ทันตแพทย์จะเป็นผู้ใส่สารฟอกสีฟันเข้าไปข้างในตัวฟัน ที่เปลี่ยนเป็นสีคล้ำนั้นเพื่อทำให้ฟันขาวขึ้น แล้วจะปิดช่องทางเข้าไว้ชั่วคราว เพื่อให้สารฟอกสีฟันทำให้ฟันขาวขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ก็นัดมาดูสีอีกครั้งหนึ่ง หากสียังไม่เป็นที่พอใจ ก็เปลี่ยนสารฟอกสีฟันเข้าไปใหม่ แล้วนัดกลับมาดูอีกครั้ง เมื่อสีเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็ปิดช่องไว้อย่างถาวรต่อไป
Q: แล้ววิธีไหนดีที่สุด?
A : เนื่องจากฟันที่เปลี่ยนสีเป็นคล้ำขึ้นนั้น มีความแตกต่างกันในแง่ของสาเหตุ รวมทั้ง ระดับความเข้มของสีฟัน ดังนั้น แต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมกับแต่ละสาเหตุและระดับความเข้มที่ต่างกันไป จึงควรปรึกษาทันตแพทย์ถึงวิธีที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละรายต่อไป
อนึ่ง วิธีที่นับว่าปลอดภัยที่สุด และให้ผลเป็นที่น่าพอใจ ก็น่าจะเป็นวิธี at-home bleaching ทั้งนี้เนื่องจากใช้สารฟอกสีฟันที่ความเข้มข้นต่ำที่สุดนั่นเอง และแม้ว่า over-the-counter bleaching จะใช้สารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นที่ต่ำด้วยเช่นกันก็ตาม แต่เนื่องจากผลการฟอกสีฟันยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด และยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เพียงพอ จึงไม่อาจบอกได้ว่าดีและปลอดภัยที่สุดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วิธี in-office power bleaching และ in-office assisted bleaching แม้จะใช้สารฟอกสีฟันความเข้มข้นสูง หากทำโดยผู้ชำนาญ และทำด้วยความระมัดระวัง ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด
Q : จำเป็นหรือไม่ ที่จะฟอกสีฟัน?
A :ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน หากรู้สึกว่าอยากให้ฟันมีสีขาวขึ้น เพราะสีปัจจุบันดูคล้ำมากเหลือเกิน ยอมรับไม่ได้ หลายๆ คนก็ทัก นั่นแสดงว่า การฟอกสีฟันอาจเป็นสิ่งจำเป็น แต่หากเจ้าตัวไม่รู้สึกว่าฟันมีสีคล้ำขึ้น หรือแม้ว่าสีจะคล้ำ แต่ก็ยังพอใจในสีปัจจุบันอยู่ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็ไม่ได้มีความจำเป็นแต่อย่างใด
Q : ข้อดี-ข้อเสีย ของการฟอกสีฟัน
A :ผลข้างเคียงจากสารฟอกสีฟัน คือ อาการเสียวฟัน และการระคายเนื้อเยื่ออ่อน ซึ่งจะกลับสู่สภาพปกติได้เองเมื่อไม่ได้สัมผัสกับสารฟอกสีฟัน
จากผลการวิจัย พบว่า ไม่มีผลชัดเจนต่อผิวฟัน และเนื้อฟัน ดังนั้น จึงถือได้ว่า การฟอกสีฟัน เป็นการเปลี่ยนสีของฟันที่อนุรักษ์ (conservative) ที่สุด และประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของการฟอกสีฟัน ก็คือ
1. สีเริ่มต้นของฟัน หากเป็นฟันที่มีสีเข้มไม่มากนัก สีออกเหลือง หรือคล้ำ แต่ไม่มาก อาจสามารถฟอกสีฟันเพียงอย่างเดียวได้ แต่หากว่า สีเริ่มต้นของฟัน เป็นสีที่เข้มมากๆ เช่น สีเทาดำ อาจต้องใช้วิธีการอื่น เช่น การทำเคลือบฟันเทียม การปรับสภาพผิวฟัน หรือการทำครอบฟัน โดยอาจทำเพียงอย่างเดียว หรืออาจทำร่วมกับการฟอกสีฟัน เพื่อให้ผลดีขึ้นก็ได้ แล้วแต่กรณี
2. สีที่จะเปลี่ยน ต้องเป็นสีของฟันธรรมชาติเท่านั้น หากเป็นวัสดุอื่นๆ เช่น วัสดุอุดฟัน ฟันปลอม หรือครอบฟัน สีจะไม่เปลี่ยน ดังนั้น หากมีฟันที่จะต้องอุด อาจต้องเลือกอุดด้วยวัสดุที่สีขาวกว่าฟันก่อนฟอกสี หรือหากว่าได้อุดหรือครอบ หรือทำฟันปลอมไปแล้ว อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนครอบฟัน, ฟันปลอม, หรือวัสดุอุดนั้นๆ หลังจากฟอกสีฟันเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ได้สีที่ดูเหมือนฟันธรรมชาติที่สุด